เมล็ดอัลฟาฟ่า 20-100กรัม เมล็ดหญ้าทิมโมธี เมล็ดทิโมธี เมล็ดอัลฟัลฟ่า ***ศึกษาวิธีปลูกได้ในรายละเอียดสินค้า***

อัลฟัลฟ่า “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล
บรรจุ : 20 กรัม (ประมาณ 7000)(สำหรับเพาะต้นอ่อน และปลูกเป็นพืชอาหารสัตว์)
30 กรัม สายพันธุ์OP (ซองสี) (เหมาะสำหรับเพาะเป็นต้นอ่อน ปลูกเป็นพืชบำรุงดิน พืชอาการสัตว์)
100 กรัม(สำหรับเพาะต้นอ่อน และปลูกเป็นพืชอาหารสัตว์)
อัตรางอกประมาณ: 85%
อายุเก็บเกี่ยว: 80 วัน สำหรับเลี้ยงสัตว์ / 4-5 วันสำหรับกินต้นอ่อน
ความต้องการแสงแดด: แดดจัดหรือแดดเต็มวัน
ดินที่เหมาะสมกับการปลูก: ดินร่วน / ดินร่วนปนทราย
การปลูกถั่วอัลฟัลฟ่า ปลูกลงกระถางได้ลงดินได้ (แต่ปลูกลงกระถางต้นจะเล็กกว่าลงดิน)
1.เลือกพื้นที่ ดอน ดินมีการระบายน้ำได้ดี ตรวจสอบค่า pH ในดิน แล้วปรับค่า pH ให้เป็นด่างเล็กน้อย ไถพรวนดินเตรียมดินให้ละเอียดผสมอินทรียวัตถุเพื่อให้โครงสร้างดินโปร่งขึ้น ปรับพื้นที่ปลูกให้เรียบและลาดเอียงเล็กน้อยสามารถระบายน้ำออกจากแปลงได้ดี
2.ใช้เศษไม้ขีดบนผิวดินให้เป็นร่องเล็กๆระยะห่างระหว่างร่อง 30 เซนติเมตร โรยเมล็ดถั่วอัลฟัลฟ่าลงตามแนวร่องใช้มือกลบดินลงในร่อง รดน้ำให้ดินชุ่มเมล็ดจะงอกภายในเวลา 1-2 วัน หากเมล็ดไม่งอก หรืองอกน้อยให้ปลูกซ้ำ
3.คอยกำจัดวัชพืชที่ขึ้นภายในแปลงถั่วอัลฟัลฟ่าอย่างต่อเนื่องในระยะแรกควรทำทุกสัปดาห์ กระทั่งต้นถั่วสามารถคลุมพื้นที่ได้แล้ว
4.ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ โดยโรยระหว่างแถวของต้นถั่ว
5.ตัดต้นถั่วครั้งแรกที่อายุ 60 วัน และครั้งต่อไปทุกๆ 45 วัน การนำไปใช้ประโยชน์ตัดให้สัตว์กินสด หรือตากให้แห้ง 2-3 แดดทำเป็นถั่วแห้ง เก็บไว้ให้สัตว์กินก็ได้ นำไปเลี้ยงสัตว์ได้

รายละเอียด : อัลฟัลฟ่า เป็นพืชตระกูลถั่วที่มีอายุหลายปี ประมาณ 4-8 ปี มีแหล่งกำเนิด ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิหร่าน และแพร่กระจายต่อไปยังแถบอเมริกาเหนือ ยุโรป และอเมริกาใต้ ปัจจุบันสามารถปลูกได้ทั่วไปในโลก ปรับตัวเข้ากับเขตอบอุ่นและกึ่งร้อนได้ดี จัดเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีคุณภาพดีที่สุดในแง่ของอาหารสัตว์ และเป็นอาหารหยาบชั้นเลิศ ถ้าตัดต้นถั่วในระยะเริ่มออกดอกจะมีโปรตีน 16-25 เปอร์เซ็นต์ และมีค่าโภชนาที่ย่อยได้สูงถึง 60-70 เปอร์เซ็นต์ ถ้าปลูกในแถบที่มีฝนชุกดินที่ปลูกต้องระบายน้ำได้ดี ชอบดินที่เป็นด่างเล็กน้อย Alfalfa มีระบบรากที่มหัศจรรย์มาก เป็นพืชปรับปรุงดินชั้นเยี่ยม เนื่องจากเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีปมรากจำนวนมากที่สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศ และความยาวของรากอยู่ระหว่าง 2 - 6 ม. ในบางพื้นที่รากของ Alfalfa สามารถชอนไชลงไปได้ลึกกว่า 39 ม. จึงมีประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารได้มากกว่าและบริสุทธิ์กว่า อีกทั้งตัวของ Alfalfa เองก็จะไม่สะสมสารพิษ ชาวอาหรับโบราณรู้จักใช้ประโยชน์จาก “Alfalfa” มากว่า 2000 ปีก่อนคริสตกาล โดยใช้เป็นพืชเลี้ยงสัตว์ เพื่อเพิ่มความเร็วและแข็งแรงให้กับม้า อีกทั้งยังใช้ใบมาตากแห้งชงเป็นชาดื่ม ด้วยคุณค่าทางอาหารที่มากมายชาวอาหรับจึงขนานนาม Alfalfa ให้เป็น AL-FAS-FAH-SHA หรือ “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล” Alfalfa
อัลฟัลฟ่า จัดเป็นพืชตระกูลถั่วขนาดเล็กที่มีระบบรากที่มีประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารได้มากกว่าพืชชนิดอื่น ๆ จึงถูกขนานนามให้เป็นราชาแห่งอาหารทั้งมวล และเป็นพืชที่มีส่วนประกอบของสารอาหารต่าง ๆ มากมาย มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเองได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อประโยชน์ในการสร้างเซลล์ใหม่ อีกทั้งยังมีวิตามิน AB1B6B8B12CDEKPและU รวมไปถึงเกลือแร่อีกหลากหลายชนิด
คุณประโยชน์อัลฟัลฟ่า
• เสริมสร้างธาตุเหล็กให้แก่ร่างกาย
• บรรเทาอาการชา บวมตามข้อ
• ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
• ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
• ปรับระดับน้ำตาลในเลือด
• ลดอาการผมร่วง
• บรรเทาอาการปวดศีรษะ
• บำรุงผิวพรรณ
• บรรเทาอาการภูมิแพ้
• ปรับสภาพผู้หญิงวัยทอง

วิธีเพาะต้นอ่อน
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
1.ขวดโหลแก้วปากกว้าง
2. ผ้าขาวบาง หรือตาข่ายที่ตาถี่
3.ยางรัดของ
วิธีการเพาะอัลฟาฟ่า
1.เมล็ดอัลฟาฟ่าตามจำนวนที่ต้องการ ( เมล็ดอัลฟาฟ่า 1 ช้อนโต๊ะ สำหรับสลัด1จาน)
2.นำเมล็ดอัลฟาฟ่ามาใส่ขวด หาผ้าขาวบางหรือผ้าที่บางๆ เช่นตาข่ายแบบถี่มาคลุมที่ฝาด้านบนจากนั้นนำยางรัดของ มัดผ้ากับปากขวดเอาไว้
3.เติมน้ำผ่านผ้าขาวบาง ล้างเมล็ดออก 2-3 น้ำ จากนั้นนำเมล็ดอัลฟาฟ่าแช่น้ำทิ้งไว้ 4-12 ชั่วโมง(ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ อากาศเย็นต้องแช่นานกว่าอากาศร้อน)
4.เทน้ำที่แช่ทิ้งแล้วล้างออกประมาณ 2 น้ำ
5.เขย่ากระจายเมล็ดให้ทั่วขวด แล้ววางขวดไว้ในที่มืด เช่นในตู้กับข้าวหรือในกล่องที่ทึบแสง ไว้ 1 คืน
6.ในทุกๆ วัน เราจะนำเมล็ดอัลฟาฟ่าล้างน้ำ 2 รอบ เก็บต่อห้ามไม่ให้มีน้ำขังอยู่ในขวดเลย ก่อนเก็บต้องคว่ำน้ำออกจากขวดให้หมด ทำเช่นนี้สำหรับ 3-4 วันหรือจนกว่าเมล็ดงอกความยาวของ 1นิ้วครึ่ง ถึง 2 นิ้ว
7.ระยะการปลูกโดยรวมใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน ก่อนนำไปรับประทาน นำขวดออกไปให้โดนแสงแดด 15 นาที เพื่อให้ต้นอ่อนอัลฟาฟ่าสังเคราะห์แสงและให้เอ็นไซม์ที่สำคัญทำงานอย่างเต็มที่ ต้นอ่อนอัลฟาฟ่าเปลี่ยนเป็นสีเขียว
**เคล็ดลับการปลูกต้นอ่อนอัลฟาฟ่า**
ควรคว่ำน้ำออกให้หมด เมล็ดกระจายตัวไม่จับกันเป็นก้อน

การปลูกหญ้าทิโมธี
เนื่องจากหญ้าทิมโมธีเป็นหญ้าเมืองหนาว จึงควรหลีกเลี่ยงที่ๆ มีแสงแดดจัด ต้องวางที่แสงแดดรำไร แดดเช้าครึ่งวัน ดินต้องชื้นเสมอ ห้ามดินแห้ง
การเพาะเมล็ดควรแช่เมล็ดในน้ำอุ่น4-6ชม. ผึ่งลมให้แห้ง ค่อยใช้วิธีโรยเมล็ดแล้วค่อยโรยวัสดุเพาะทับ0.5-1ซม.
หรือจะใช้วิธีควบแน่น ใช้ดินร่วนละเอียด ที่อุดมสมบุรณ์ อินทรียวัตถุสูง กักเก็บความชื้นได้ดี ระบายน้ำได้ดี รดน้ำให้วัสดุเพาะชื้นหมาด ๆ ไม่แฉะเกินไป แล้วนำไปใส่ในกระถาง หว่านเมล็ดลงไปทั่วๆ อย่าให้ติดกัน สเปรย์น้ำอีกครั้ง เอากระถางใส่ถุงใสมัดปากถุงนำไปวางไว้ในที่ร่ม คอยตรวจดูเสมอ หากมีไอน้ำให้เปิดถุงเพื่อให้ไอน้ำระเหย หากวัสดุปลูกแห้งให้สเปรย์น้ำเพิ่มแล้วมัดตามเดิม รอจนต้นงอกแล้ว จึงแกะถุงออก เลี้ยงต้นอ่อนจนแข็งแรง เริ่มให้ปุ๋ยได้หลังงอก2อาทิตย์